“รถไฟฟ้าสายสีเหลือง” คืบ65.96% ปีหน้าได้นั่ง “สำโรง-พัฒนาการ” ราคาที่ดินพุ่งวาละ 2 แสน

หลังจากกลุ่มกิจการร่วมค้า BSR ประกอบด้วย บมจ.บีทีเอสกรุ๊ป, บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และ บมจ.ราชกรุ๊ป ทุ่มเงินลงทุน 45,797 ล้านบาท คว้าสัญญาสัมปทาน 33 ปี ก่อสร้างและเดินรถโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม.

โดยเริ่มเซ็นสัญญากับ”รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย”ไปเมื่อ วันที่ 16 มิ.ย.2560 แต่กว่าจะออกหนังสือให้เริ่มงานก่อสร้าง(NTP)ก็เข้าสู่เดือนพ.ค.2561 

เคลียร์พื้นที่จบเร่งสร้างเต็มสูบ

หลังติดหล่มปมการส่งมอบพื้นที่ในแนวเส้นทาง โดยเฉพาะการรื้อ”สะพานข้ามแยกบางกะปิ”บริเวณหน้าเดอะมอลล์ ที่ต้องหาบทสรุปรูปแบบร่วมกับ”กทม.-กรุงเทพมหานคร” กว่าจะลงตัวต้องทุบทิ้งสร้างใหม่ ก็ใช้เวลานานพอสมควร 

จากความล่าช้าดังกล่าว ทำให้เอกชนผู้ลงทุนต้องขอต่อเวลาก่อสร้างออกไปอีก โดยคณะกรรมการ(บอร์ด)รฟม.เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2563 ได้อนุมัติให้ เป็นระยะเวลา 265 วันหรือประมาณ 9 เดือน 

ทำให้กำหนดการเปิดบริการจะต้องเลื่อนออกไปด้วย จากเดิมเปิดบริการในเดือนค.ค.2564 ขยับออกไปเป็นเดือนก.ค.2565 

ปัจจุบันกลุ่มบีทีเอสกำลังเร่งตอกเข็มก่อสร้าง เพื่อเร่งเปิดบริการบางช่วงให้ได้ตามสัญญาในเดือนต.ค.2564 เป็นวิธีการบริหารจัดการโครงการและบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายการลงทุนที่เพิ่มขึ้นจากการขยายเวลาก่อสร้าง เพราะรฟม.ให้แค่”เวลา”ไม่มีชดเชยเป็นวงเงินแต่อย่างใด
 

สร้างคืบหน้า 65.96%

สำหรับความพร้อมของการเปิดบริการ”ภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ”ผู้ว่าการรฟม.กล่าวว่า ผลงานก่อสร้างสายสีเหลืองโดยรวม ณ เดือนต.ค.ที่ผ่านมามีความคืบหน้า 65.96%  สร้างเร็วกว่าแผนงาน 5.54% พร้อมเปิดบริการเต็มรูปแบบตลอดสายในเดือนก.ค.2565

ทั้งนี้จะเปิดบริการช่วงสถานีสำโรง-พัฒนาการก่อน จะเชื่อมกับแอร์พอร์ตลิงก์ คาดว่าจะเริ่มทดสอบระบบเดินรถ (Test Run) ประมาณเดือนเม.ย. 2564 หลังจากนั้นเดือน ก.ค  2564 จะทดลองเดินรถเสมือนจริง(Trial Running) ให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการด้วย และเปิดเชิงพาณิชย์เก็บค่าโดยสารในเดือนต.ค.2564 เริ่มต้น 16-42บาท

ซึ่งตามสัญญาเอกชนผู้รับสัมปทานสามารถเปิดบริการและจัดเก็บค่าโดยสารไปก่อนได้ หากการก่อสร้างล่าช้าจากเหตุสุดวิสัยหรือรัฐมอบพื้นที่ไม่ได้ เนื่องจากเอกชนต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเองทั้งหมดจากเวลาก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น

เปิดแนวเส้นทาง

สำหรับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เริ่มต้นที่จุดเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงินที่แยกรัชดา-ลาดพร้าว วิ่งไปตามแนวถนนลาดพร้าว เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเทาของที่แยกฉลองรัช และยกระดับข้ามทางด่วนฉลองรัชจนถึงทางแยกบางกะปิ

จากนั้นจะเลี้ยวขวาไปทางทิศใต้ตามถนนศรีนครินทร์ เชื่อมต่อกับสายสีส้มที่ทางแยกลำสาลี แล้วจะยกระดับข้ามทางแยกต่างระดับพระราม 9 เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์และผ่านแยกพัฒนาการ แยกศรีนุช แยกศรีอุดมสุข แยกศรีเอี่ยม จนถึงแยกศรีเทพา 

แล้วจะเลี้ยวขวาไปตามแนวถนนเทพารักษ์ ผ่านจุดเชื่อมต่อกับสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่สถานีสำโรง และสิ้นสุดแนวเส้นทางบริเวณถนนปู่เจ้าสมิงพราย มีทั้งหมด 23 สถานี โรงจอดรถศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่ง อาคารและลานจอดแล้วจร 1 แห่ง บริเวณทางแยกต่างระดับศรีเอี่ยม

ราคาประเมินใหม่ขยับตาม 
จากความคืบหน้าของการก่อสร้างสายสีเหลือง ทำให้การพัฒนาในเส้นทางเริ่มคึกคัก ขณะที่ ”ราคาประเมินที่ดินใหม่”ของกรมธนารักษ์ก็มีแนวโน้มจะเขย่าใหม่อีกครั้งก่อนประกาศใช้วันที่ 1 ม.ค.2565 

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้”กรมธนารักษ์”เคยเก็บข้อมูลไปครั้งหนึ่งแล้ว เพื่อเตรียมประกาศใช้วันที่ 1 ม.ค.2563 ที่ผ่านมา แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจและข้อกฎหมายทำให้จึงต้องเลื่อนออกไปถึงปลายปี 2564

ลาดพร้าว-ศรีนครินทร์ราคาพุ่ง 

โดยราคาประเมินใหม่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง แยกเป็น”เขตบางกะปิและวังทองหลาง” ปรับขึ้น 0.48% เช่น ถ.รามคำแหง 110,000-170,000 บาท/ตร.ว. ถ.พระราม 9 คลองแสนแสบ-คลองกะจะ 170,000 บาท/ตร.ว. ถ.ลาดพร้าว 150,000-200,000 บาท/ตร.ว. ถ.ศรีนครินทร์ ช่วงลาดพร้าว-สุดเขตบางกะปิ 150,000 บาท/ตร.ว.

และ “เขตประเวศและสวนหลวง” ปรับขึ้น 2.75% เช่น ถ.เพชรบุรี ช่วงทางรถไฟสายช่องนนทรี-แยกคลองตัน 300,000 บาท/ตร.ว. ถ.ศรีนครินทร์ 140,000-200,000 บาท/ตร.ว. ถ.อ่อนนุช 60,000-220,000 บาท/ตร.ว. ถ.พัฒนาการ 120,000-170,000 บาท/ตร.ว.